เลือกหนังให้เหมาะกับกระเป๋า
ทำไม “ชนิดหนัง” ถึงสำคัญ
ชนิดหนังมีผลต่อความทนทาน น้ำหนัก ความรู้สึกสัมผัส และลุคของกระเป๋าโดยตรง การเลือกให้เหมาะตั้งแต่แรกช่วยลดต้นทุนการซ่อมและการคืนสินค้า
ชนิดหนังหลักที่ใช้ทำกระเป๋า
✅ หนังฟอกฝาด (Vegetable-tanned)
จุดเด่น: ฟีลธรรมชาติ พัฒนาแพตตินาตามการใช้งาน
เหมาะกับ: งานคราฟต์ วินเทจ
ข้อควรระวัง: กลัวน้ำมากกว่า และหนักกว่าเล็กน้อย
✅ หนังฟอกโครม (Chrome-tanned)
จุดเด่น: นุ่ม น้ำหนักเบา สีสม่ำเสมอ กันน้ำพอประมาณ ผลิตได้หลายฟินิช
เหมาะกับ: กระเป๋าใช้งานประจำวัน แฟชั่นซีซันนัล
ข้อควรระวัง: ซ่อมแต้มสีให้เนียนอาจยากกว่าฟอกฝาด
✅ หนังออยล์/พูลอัพ (Oil/Pull-up)
ฟีลนุ่ม มี “พูลอัพเอฟเฟกต์” เหมาะกับแนวลุย/เอาต์ดอร์
✅ หนังนูบัค/กลับ (Nubuck/Suede)
สัมผัสนุ่มละมุน พรีเมียม แต่ต้องดูแลฝุ่น/คราบ ระวังน้ำ
✅ หนังรีไซเคิล/รีคอมโพสิต
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ต้นทุนสมเหตุสมผล เหมาะโปรเจ็กต์ที่ต้องการสตอรี่ความยั่งยืน
🔍 ความหนา (มม.) และการใช้งาน
- 0.8–1.2 มม.: ซับใน / ฝาปิดชิ้นเล็ก ๆ
- 1.2–1.6 มม.: กระเป๋าแฟชั่น น้ำหนักเบา
- 1.8–2.2 มม.: โท้ต/เมสเซนเจอร์ที่ต้องการทรง
- 2.4 มม.+ : งานโครง ทนมาก แต่อาจหนัก
🔥 ฟินิชผิวที่พบบ่อย
🌾Full-grain: ลายรูขุมขนธรรมชาติ ทนที่สุด
✨Top-grain: แต่งผิวเล็กน้อย เรียบ เนี้ยบ
🧩Corrected/Embossed: ปั๊มลายสม่ำเสมอ คุมคุณภาพง่าย
⚠️ เช็กลิสต์ก่อนตัดสินใจ
- ใช้ที่ไหน/บ่อยแค่ไหน (กันน้ำมาก? น้ำหนักสำคัญ?)
- สี/ฟินิชที่ต้องการ และการซ่อมบำรุงในอนาคต
- งบประมาณเทียบอายุการใช้งาน
❓ FAQ
Q1: ฟอกฝาด หรือ ฟอกโครม?
- เลือกตามการใช้งาน: ต้องการลุคธรรมชาติ พัฒนาแพตตินา → ฟอกฝาด; ต้องการเบา สีสม่ำเสมอ ดูแลง่าย → ฟอกโครม
Q2: หนังสำหรับใช้งานทุกวัน?
- ฟอกโครม/ท็อปเกรนเคลือบบาง ๆ เบา ทน คราบติดยาก เหมาะ daily use
Q3: งานเอาต์ดอร์ควรใช้?
- หนังออยล์/พูลอัพ ทน มีเอฟเฟกต์สีสวยเมื่อขยับ
Q4: ความหนามีผลต่อทรง?
- ยิ่งหนายิ่งคงรูป แต่หนักขึ้น โดยทั่วไป 1.2–1.6 มม. สำหรับแฟชั่นเบา ๆ; 1.8–2.2 มม. สำหรับงานถือทรง
Q5: ลดน้ำหนักโดยไม่เสียความทน?
- เลือกท็อปเกรนคุณภาพดี + เสริมโครงเฉพาะจุด + ใช้ไลนิงน้ำหนักเบา